| home | พุดตานกถา | แก้ปัญหาได้ก็หายเครียด | แบบประเมินความเครียด | ปรากฎการณ์มหัศจรรย ์| ผู้รู้แห่งธิเบต |
 
 
| พระพุทธศาสนา (ตอนที่๒๑) | สมาธิเพื่อสุขภาพ | แนวทางเจริญวิปัสสนา | ธรรมะในมิลินทปัญหา | รายนามผู้บริจาค |

 
 
ศูนย์สูขภาพจิต เขต ๑๐
 
 

หลักการ

            ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต เป็นสาเหตุหนึ่งที่กระตุ้นให้คนเราเกิด ความเครียด

            ในช่วงที่ยังแก้ปัญหาไม่ได้ จะรู้สึกเครียดมาก

            การแก้ปัญหาได้เร็ว และมีประสิทธิภาพมากเท่าใดก็จะหายเครียดได้มาก และเร็วขึ้นเท่านั้น

            ดังนั้น การเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่อง จำเป็นต่อการคลายความเครียดเป็นอย่างยิ่ง

   คุณชอบแก้ปัญหาแบบไหน ?

            โปรดทำเครื่องหมาย ในช่องที่ตรงกับความคิดเห็นของคุณมากที่สุด  

เมื่อเกิดปัญหา

ใช่

ไม่ใช่

๑ . ฉันจะแสดงสีหน้า ท่าทาง คำพูดหรือแสดงอารมณ์ตอบโต้ออกมาทันทีโดย ไม่ยั้ง
๒ . ฉันจะสูบบุหรี่ ดื่มสุรา เล่นการพนันหรือเที่ยวเตร่ เพื่อให้หายเครียด
๓ . ฉันจะไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น
๔ . ฉันจะยอมรับว่าเป็นความผิดของฉันเอง
๕ . ฉันจะโทษว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของผู้อื่น
๖ . ฉันจะคิดแก้ปัญหาและลงมือทำตามที่คิดไว้  

 

 

  เฉลย

. ถ้าคุณตอบว่า “ ใช่ ” ในข้อ ๑ แสดงว่าคุณชอบแก้ปัญหาแบบวู่วาม
            วิธีนี้อาจจะช่วยให้คุณได้ปลดปล่อยความเครียดออกไปจนหมด แต่ผลเสีย ที่ตามมาคือทำให้คนรอบข้างเครียด และเกิดความขัดแย้งกับผู้อื่น ได้ง่าย
             ดังนั้นคุณจึงควรระงับอารมณ์ไว้บ้าง หัดนับ ๑ - ๑๐ หรือหายใจเข้าช้า ๆ ลึก ๆ สัก ๔ - ๕ ครั้ง ก่อนที่จะตอบโต้อะไรออกไป คุณจะได้ไม่ต้อง มานั่งเสียใจทีหลัง กับสิ่งที่คุณได้ทำลงไปโดยขาดความยั้งคิดแบบแต่ก่อน

. ถ้าคุณตอบว่า “ ใช่ ” ในข้อ ๒ แสดงว่าคุณเป็นคนชอบหนีปัญหา
             การหนีปัญหา อาจทำให้รู้สึกสบายใจได้ชั่วคราวแต่เมื่อปัญหายังไม่ได้รับ การแก้ไขให้หมดไป ความเครียดจึงยังคงอยู่ และอาจเพิ่มมากขึ้น เพราะ มีปัญหาอื่นทับถมเข้ามาอีก เช่น การติดสุรา การติดเชื้อเอดส์ การมีหนี้สินเป็นต้น

. ถ้าคุณตอบว่า “ ใช่ ” ในข้อ ๓ แสดงว่าคุณชอบแก้ปัญหาโดยการขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น
             วิธีนี้มีส่วนดี เพราะทำให้รู้สึกอบอุ่นใจว่ายังมีคนคอยให้ความช่วยเหลืออยู่คุณไม่ได้ถูกทอดทิ้งให้สู้ปัญหาเพียงลำพัง แต่การพึ่งพิงคนอื่นมาก เกินไปก็ไม่ดี ควรลองหัดแก้ปัญหาด้วยตัวเองดูก่อน ถ้าเหลือบ่ากว่าแรงจริง ๆ จึงค่อยขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น

. ถ้าคุณตอบว่า “ ใช่ ” ในข้อ ๔ แสดงว่าคุณเป็นคนชอบตำหนิตัวเอง
             การยอมรับความผิดเป็นเรื่องดี แต่ถ้ารับผิดและตำหนิตนเองไปเสียทุกครั้ง จะเป็นการมองตัวเองในแง่ร้ายเกินไป              บางครั้งเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องสุดวิสัย หรือไม่ก็น่าจะอยู่ในความรับผิดชอบของคนหลาย ๆ คน จึงไม่ยุติธรรมที่จะตำหนิตัวเองเพียงคนเดียว เพราะจะทำให้ คุณรู้สึกเสียใจ ท้อแท้ และหมดกำลังใจที่จะคิดแก้ไขปัญหาต่อไป
             บางครั้งคุณอาจทำผิดจริง แต่คนเราก็ย่อมผิดกันได้ควรให้อภัยตัวเอง ถือเอาความผิดนั้นบทเรียนที่จะไม่ทำผิดซ้ำอีกจะดีกว่า  

. ถ้าคุณตอบว่า “ ใช่ ” ในข้อ ๕ แสดงว่าคุณเป็นคนชอบโยนความผิดให้ผู้อื่น
             การปัดความรับผิดชอบ เป็นเรื่องไม่สมควร ไม่ว่าจะเป็นการโยนความผิดให้ผู้อื่น หรือการโทษเคราะห์กรรมโทษโชคชะตาก็ตาม เพราะไม่ใช่ การแก้ปัญหาเลย
             ตราบใดที่ปัญหายังคงอยู่ ความเครียดก็จะคงอยู่ด้วย ทางที่ดี คุณควรหาทางคิดแก้ปัญหา หรือร่วมมือกับผู้อื่นในการแก้ปัญหาจะดีกว่าการ โทษกันไป โทษกันมาให้ผิดใจกันเปล่า ๆ

. ถ้าคุณตอบว่า “ ใช่ ” ในข้อ ๖ แสดงว่าคุณรู้จักวิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
             วิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ แม้จะเสียเวลาและต้องใช้ความคิด มากกว่าอารมณ์ รวมทั้งต้องพยายามคิดหาวิธีแก้ปัญหาให้ได้หลาย ๆ วิธี อาจทำให้รู้สึกชักช้าไม่ทันใจ แต่สามารถจะหวังผลสำเร็จได้สูง เพราะได้คิดไตร่ตรองมาอย่างดีแล้ว

             วิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ มีขั้นตอนดังนี้
             มีการวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหา
             คิดวิธีการแก้ปัญหาหลาย ๆ วิธี
             ลงมือแก้ปัญหาตามวิธีที่คิดไว้
             ประเมินผลการแก้ปัญหา ถ้าวิธีแรกไม่ได้ผล ก็ใช้วิธีต่อ ๆ ไปจนกว่า จะได้ผล

  ตัวอย่างวิธีแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ

             วิชัยมีความเครียดจากปัญหาการเงิน เนื่องจากรายได้ไม่พอกับรายจ่าย
             วิชัยพิจารณาดูแล้ว เห็นว่าสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เงินไม่พอใช้ เป็นเพราะเขาชอบ เที่ยวกลางคืนบ่อยๆ ชอบใช้เสื้อผ้าต่างประเทศ และชอบ รับประทานอาหารนอกบ้านเป็นประจำ
             วิชัยคิดแก้ปัญหา โดยตั้งใจว่า จะลดการเที่ยวกลางคืนลง จะเลือกซื้อ เสื้อผ้าที่ผลิตในประเทศ และจะทำอาหารรับประทานเองให้บ่อยขึ้น
             ถ้าไม่ได้ผล จะใช้วิธีทำงานหารายได้พิเศษในตอนเย็นหลังเลิกงาน และ ในวันหยุด
             เมื่อวิชัยลงมือทำตามที่ตั้งใจไว้ ก็พบว่าวิธีแรกไม่ได้ผล เขาลดการ เที่ยวเตร่ไม่ได้เพราะเกรงใจเพื่อน ส่วนเสื้อผ้าในประเทศก็ไม่เหมาะกับคน
รูปร่างสูงใหญ่อย่างเขาสำหรับอาหารที่เขาทำเองก็ไม่อร่อยเลย
             วิชัยจึงหารายได้พิเศษ โดยการขับแท็กซี่ ซึ่งได้ผลดี นอกจากจะมีรายได้ เพิ่มแล้ว เขายังเหนื่อยจนไม่อาจเที่ยวเตร่กับเพื่อนได้อย่างเคย จึงประหยัดเงินได้มาก
             เมื่อวิชัยแก้ปัญหาการเงินของเขาได้ เขาก็หายเครียดและมีความสุขมากขึ้น

 

เงินไม่สำคัญเสมอไป

เงิน ซื้อเตียงนอนได้   แต่
ซื้อการหลับเป็นสุขไม่ได้
เงิน ซื้อกระดาษปากกาได้   แต่
ซื้อความเป็นกวีไม่ได้
เงิน ซื้ออาหารดี ๆ ได้   แต่
ซื้อความอยากรับทานไม่ได้
เงิน ซื้อความประจบสอพลอได้   แต่
ซื้อความจริงใจไม่ได้
เงิน ซื้อการตามใจได้   แต่

ซื้อความจงรักภักดีไม่ได้

เงิน ซื้อเพชรนิลจินดา ได้   แต่
ซื้อความงามไม่ได้
เงิน ซื้อความสนุกชั่วคร ู่ได้   แต่
ซื้อความสุขไม่ได้
เงิน ซื้อเพื่อนร่วมเดินทาง ได้   แต่
ซื้อเพื่อนแท้ไม่ได้
เงิน ซื้ออำนาจราชศักดิ์ ได้   แต่
ซื้อปัญญาไม่ได้
เงิน ซื้ออาวุธยุทธภัณฑ์ได้   แต่
ซื้อสันติสุขไม่ได้
เงิน ซื้อเมียที่สวยได้   แต่
ซื้อแม่ที่ดีให้ลูกไม่ได้

เงินจะสำคัญเมื่อจำเป็นต้องใช้เท่านั้น

  พระราชสุทธิญาณมงคล วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี

Top