ทางออกของชีวิต ครั้งหนึ่ง ท่านมิลาเรปะ ได้พูดแก่โยมอุปฐากชื่อชินโดรโมว่า ถ้าคุณโยมมีกายอันมีค่ายิ่ง และได้มาเกิดในสมัยและในดินแดนที่พระพุทธศาสนา มีคนนับถือ
อยู่ทั่วไปแล้วไม่ปฏิบัติธรรมนั้นเลย มันเป็นความเขลามากจริง ๆ พูดแล้วท่านมิลาเรปะ
ก็ร้องสวดธรรมคีตาของท่าน ดังนี้
ปณิธานแน่วแน่ ๖ ประการ โยคีผู้หนึ่ง มีความเลื่อมใสในท่านมิลาเรปะมากพร้อมกับโยมอุปฐากอื่น ๆ ได้นำเอาเครื่องสักการะบูชามากมายมาถวายท่าน และได้ถามท่าน มิลาเรปะว่า ท่านอาจารย์ได้บากบั่นปฏิบัติอย่างไร จึงผ่านการทดลองที่แสนจะยากลำบากทั้งหลาย จนประสบผลสำเร็จ ...... ท่านมหาโยคีมิลาเรปะตอบว่า
มหาสมุทรแห่งสังสารวัฏฏ์ วันหนึ่งท่านมิลาเรปะได้ออกไปบิณฑบาต และได้พบปะผู้ประพฤติธรรมหมู่หนึ่ง และคนเหล่านั้นได้พูดจาดูหมิ่นเหยียดหยามท่านแต่มีคนหนึ่ง ในหมู่นั้น จำท่านได้ จึงพูดแก่ท่านว่า โปรดร้องสวดสอนเราเถิด โปรดดลใจพวกเราที่มาชุมนุม ณ ที่นี้ให้สว่างด้วยเถิด ท่านมิลาเรปะ จึงเปล่งเสียงร้องก้องออกมาดังนี้
----------------------------------------- * ภาวะบารโด คือ ภาวะที่กึ่งกลางระหว่างการตายและการเกิดใหม่ตามความเชื่อ ทางพุทธศาสนาฝ่ายธิเบตภาวะนี้สำคัญมากบุคคลจะไป เกิดใหม่ดีหรือชั่วอย่างไร ขึ้นอยู่กับ ภาวะบารโด คำนี้ตรงกับคำว่า สัมภเวสีซึ่งพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทยังโต้แย้งอยู่ไม่ยอมรับว่ามีเพราะถือกันว่าการ ไปเกิดอีก เป็นการไปเกิดทันท่วงที ไม่มีภาวะอื่นใดแทรกเข้ามาเป็นทางผ่านแต่อีกความหมายหนึ่ง สัมภเวสีหมายถึงปุถุชนทุกคนที่ยังไม่บรรลุ มรรคผลนิพพาน ที่ยังไม่สำเร็จเป็นอรหันต์ตราบใดที่ยังมีเหตุให้เวียนเกิดเวียนตายในวัฏฏสงสาร ตราบนั้น แต่ละคนก็ยังเป็นสัมภเวสี ผู้แสวงหา การเกิด ผู้เวียนเกิด
ความเปลี่ยนแปลง เมื่อฤดูใบไม้ร่วงย่างเข้ามาแล้ว ท่านมิลาเรปะก็ตัดสินใจจาก โลโวเหนือ สถานที่ซึ่งท่านได้อยู่สอนธรรมะมาตลอดฤดูร้อน ท่านประสงค์จะไป พำนักที่
หิมะสิงขร ชื่อ ดีเซ เมื่อพวกศรัทธาโยมอุปฐากทราบ ก็ได้มาห้อมล้อมแสดงความ
เคารพสักการะแก่ท่านและพูดกับท่านว่า ท่านอาจารย์พึง มีความกรุณาแก่พวกเรา
ซึ่งเป็นศิษย์ของท่านด้วยเถิด โปรดให้โอวาทแก่เราอีกสักครั้ง
|
||||||||
|
||||||||