| home | บอกกล่าว | วิกฤตคือโอกาส | ผู้รู้แห่งธิเบต | ยาแก้โรคทุกข์ | แม่ | เมื่อข้าพเจ้าเข้ากรรมฐาน | |
|||
โดย............ รุ่งเรือง บุญโญรส แปล | |||
...ดั่งสายน้ำไหล... |
|||
ท่านมิลาเรปะได้เดินทางไปกับศิษย์หลายคน เมื่อถึงหมู่บ้านดินรินมาร ท่านได้ถามหาว่าใครในหมู่บ้านที่จะเป็นโยมอุปฐากได้ เมื่อทราบว่า มีเพียงแพทย์คนหนึ่งชื่อ ยัง งือ เป็นพุทธศาสนิกใจบุญ ท่านจึงมุ่งหน้าไปสู่บ้าน ของเขา ครั้นพบกันแล้ว แพทย์ผู้นั้นกล่าวว่า ใคร ๆ เขาพูดกันว่าท่านอาจารย์ สามารถใช้สิ่งที่อยู่ใกล้ ๆ มือเปรียบเทียบในการสอนธรรมะ โอกาสนี้ขอท่าน อาจารย์ใช้ระลอกนํ้าที่อยู่ในคูเบื้องหน้าเรานี้ มาเปรียบเทียบและสอนธรรมะ แก่เราด้วยเถิด จากนั้น ท่านมิลาเรปะก็เปล่งวาจาออกมาเป็นธรรมคีตาดังนี้ ข้าขอนอบน้อมบูชาอาจารย์ผู้การุณของข้า ชีวิตของฆราวาส เปรียบเหมือนโจร อนึ่งโรคา ก็เหมือนดั่งสกุณาน้อย ซึ่งอาตมาไม่เคยเห็นมันไหลขึ้นสู่เบื้องบนเลย ผู้ประพฤติธรรม เป็นเหมือนชาวนาในทุ่ง แม้ธรรมะ เป็นต้นกำเนิดแห่งความมีชัย |
|||
. . . ชาติ ชรา มรณะ . . . |
|||
เท่าที่อาจารย์พูดมาแล้วนี้ นับว่าเป็นประโยชน์แก่จิตใจของกระผม มาก แพทย์ผู้มีนามว่า ยังงือ เอ่ยขึ้น และกระผมใคร่จะฟังต่อไปเกี่ยวกับธรรมะ และความทุกข์ ชาติ ชรา โรคา และมรณะ ขอท่านอาจารย์จงกรุณาเถิด กระผมจะได้มีความเข้าใจ ประจักษ์แจ้งลึกซึ้งในพุทธธรรมยิ่ง ๆ ขึ้น ท่านมิลาเรปะก็ตอบสนองด้วยดี โปรดฟังคำเหล่านี้ มิตรสหายทั้งหลาย นกกระจอกบินไปเป็นหมู่เป็นแถว คุณไม่กลัวความลำบากยากเข็ญ |
|||
. . . ความไม่แน่นอน . . . |
|||
ท่านเรจุงปะ ศิษย์ของท่านมิลาเรปะ ได้เดินทางไปในดินแดน ภารตวรรษ ( อินเดีย ) ครั้นกลับมาแล้ว ได้กลายเป็นผู้ทะนงตนมีความถือตัว ท่านมิลาเรปะจึงพยายามแก่โรคร้ายนั้นให้หมดไป วันหนึ่งทั้งอาจารย์และลูกศิษย์ได้ออกไปบิณฑบาตและวันนั้น หญิงชราคนหนึ่งไม่ถวายอะไรแก่ท่านทั้งสองเลย และบอกปัดว่าไม่มีอาหาร จะให้ ทั้งได้กล่าวตำหนิติเตียนท่านทั้งสองด้วย ในตอนเช้าวันต่อมาท่านทั้งสอง ได้พบว่าหญิงชราคนนั้นได้ถึงแก่กรรมเสียแล้ว ท่านมิลาเรปะจึงกล่าวว่า เรจุงปะเอ๋ย สิ่งที่มีชีวิตจิตใจทั้งหลายทุกรูปทุกนามก็เหมือนกับหญิง คนนี้ จะต้องตายในที่สุด แต่คนทั้งหลายไม่ค่อยคิดถึงความจริงนี้ เพราะเหตุนั้น แหละคนเหล่านั้นจึงปล่อยโอกาสดี ๆ ที่ควรปฏิบัติธรรมให้สูญสิ้นไป ทั้งเจ้า และข้าควรจำเหตุการณ์นี้ไว้และถือเอาเป็นบทเรียน จากนั้นท่านมิลาเรปะก็ร้องก้องออกมาเป็นธรรมคีตาว่า ด้วยความ มีอยู่เพียงชั่วเวลาอันสั้น ( อนิจจตา ) และความหลงเมามัว ( โมหะ ) ดังนี้ :- เมื่อความจริงปรากฏว่า ชีวิตเป็นอนิจจัง เรจุงปะ เธอตื่นเต็มที่แล้วหรือ เรจุงปะเอ๋ย เธอจะไม่ตัดขาดจากสังสารวัฏหรือ เมื่อข้ากลับมาดูที่จิตใจของข้า ซึ่งมุ่งแต่ยึดถือ เมื่อข้ามองดูมิตรและคนที่รู้จักคุ้นเคยทั้งหลาย คนรวยนาน ๆ ครั้งจะมีความสุขสำราญ |
|||