พุดตานกถา

พระชุมพล พลปุญฺโญ

ในความไร้ จะมีความฝัน

ในความมั่งมี จะห่วงกังวล

เมื่อสละ จะเจอความปลอดโปร่งว่างเบา

การได้ของรักของหวง เพิ่มความโหยหิวกระหาย

เมื่อสละเสียซึ่งของรักของหวง จะปลอดโปร่งโล่งไปทั่วกายและจิต

เมื่อเกิดมาเกิดมากับความไร้

เมื่อตายไปตายไปกับความไร้

ฉะนั้น ความไร้จึงเป็นความจริง

ส่วนความมั่งมี ความพรั่งพร้อม คือ มายาภาพ

กินเข้ามาไม่ถ่ายออก จะอึดอัดกาย

ได้เข้ามาไม่สละออก จะอึดอัดใจ

ฉะนั้น บัณฑิตทั้งหลาย ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต

จึงสมาทานการให้ทาน ด้วยความเคารพไว้เหนือเศียรเกล้า

คนสามัญเกิดมาเพื่อสะสม

คนชั้นสูงเกิดมาเพื่อสละ

อนกลางวันก็มีแสงดาว แต่ถูกแสงอาทิตย์กลบไป

การงานมีคุณค่าอยู่ที่กำลังใจที่ทุ่มเทให้การงาน มิใช่ยิ่งใหญ่อยู่ที่ชาวโลกรับรู้

อย่าอับอายที่การงานของคุณมิได้ถูกนำมากล่าวขวัญ

แต่จงอับอายถ้าหากมิได้ทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์

ช่อฟ้าสร้างประโยชน์ในฐานะช่อฟ้า

เสาเข็มสร้างประโยชน์ในฐานะเสาเข็ม

แม้จะอยู่ต่างที่กัน แต่ก็มีประโยชน์แก่โบสถ์ทั้งนั้น

จงภูมิใจในการทำหน้าที่เกื้อกูลสังคม

อย่าภูมิใจเพียงชื่อเสียงลาภยศสรรเสริญสุข

ถ้าโลกนี้หาผู้ที่เต็มใจสร้างความดีอย่างปิดทองหลังพระมิได้แล้วไซร้

กลียุคจะมาในทันทีทันใด

โรคอยู่ในกายกลับเป็นโทษ ยาอยู่ในป่ากลับเป็นประโยชน์

อยากเป็นที่รักต้องสร้างคุณสมบัติ อย่าเพียงแค่สร้างความชิดใกล้

ของที่ชิดใกล้แต่ไร้ประโยชน์จะถูกถีบส่ง ของมีประโยชน์แม้อยู่ห่างไกลจะถูกอัญเชิญมา

อย่าโทษว่าฝูงชนไม่เห็นคุณค่าของเรา จงโทษตัวเองว่าไม่พัฒนาตน

ทองคำที่มาทำมงกุฏเคยอยู่ใต้ดินลึก เพชรบนหัวแหวนเคยอยู่ในภูเขา

มูลสุนัขหน้าประตูจะถูกจำกัด ขยะหน้าบ้านจะถูกขนไปทิ้ง

อย่าเสียเวลาตีโพยตีพายโทษฟ้าโทษดิน

จงขวนขวายละชั่ว ประพฤติดี สร้างบุญบารมีแต่วันนี้

ธรรมะทั้งแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์

นั่นมีเพื่อรู้แจ้งตนเอง

รู้เรื่องราวมากมาย ไม่รู้เรื่องตนเองก็ไร้ค่า

บุคคลทั้งหลายขวนขวายควบคุมเรื่องราวในโลก

แต่ไม่เคยเรียนรู้เพื่อจะควบคุมจิตตนเอง

รถที่นั่งกันไป ถ้าไม่มีคนควบคุม นั่นคือหายนะ

ชีวิตคน ถ้าไม่รู้จักควบคุมจิต นั่นคือความพินาศ

ศีลและธรรมนั่นแล คือเครื่องควบคุมจิต

ปวงชนให้คุณค่าในสิ่งทั้งหลาย แต่ไม่ให้คุณค่าต่อศีลธรรม

นั่นคือกำลังนำพากันเข้าสู่กลียุค

มีแต่วัตถุข้าวของอย่างเดียวโดยไม่มีธรรมะไม่ได้

เพราะว่าฝูงชนที่ไร้ธรรม จะนำวัตถุมาทำร้าย ทำลายกันเอง

ที่ใดมีธรรมะ ที่นั่นจะร่มเย็นเป็นสุข

ที่ใดไร้ธรรมะ ที่นั่นกำลังเข้าสู่กลียุค

ถึงเรียนมาจากคัมภีร์

ก็ต้องปฏิบัติให้เกิดขึ้นในใจตนเอง

ถึงฟังมาจากครูบาอาจารย์

ก็ต้องฝึกฝนเรียนรู้ให้เข้าถึง

ผู้อื่นสามารถให้วิธีการ แต่ไม่สามารถให้ประสบการณ์

ผู้อื่นสามารถให้ความรู้ แต่ไม่สามารถให้ความชำนาญ

ผู้อื่นสามารถให้ความจำ แต่ไม่สามารถให้ความแตกฉาน

ในคัมภีร์มีเพียงชื่อ

ส่วนตัวจริงของจริงต้องเจอที่หัวใจคน

เมื่อผู้ปฏิบัติที่แท้จริงแสดงธรรมออกมา

แม้จะกล่าวด้วยภาษาที่เหน่อแสนเหน่อ

แต่ก็ยังเป็นที่น่าฟังกว่าผู้ที่ท่องจำมาพูด

นักเทศน์ชั้นต้นคือนักท่องจำ

นักเทศน์ชั้นสูงคือนักปฏิบัติ

เอามือจับหมึกจะเปื้อนสีดำ เอามือจับชาดจะเปื้อนสีแดง

เมื่อทำบาป ใจเราจะสัมผัสความชั่ว

เมื่อทำบุญ ใจเราจะสัมผัสความดี

เมื่อบาปยังไม่ให้ผล คนทำบาปย่อมรู้สึกเพลิดเพลิน

ต่อเมื่อใดที่บาปให้ผล แม้รู้สำนึก แต่ก็สายเกินกาล

ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก

จงดัดจิตตัวเองให้ไปสู่ทางดีเสียแต่เนิ่นเนิ่น

ทำความชั่วเป็นครั้งคราวแก้ง่าย

อย่าปล่อยจนกลายเป็นว่าทำชั่วเป็นนิสัย

อย่าหมดกำลังใจที่จะเลิกละความชั่ว

อย่าท้อใจที่จะสร้างความดี

ความภาคภูมิใจของบัณฑิตคือการได้ให้

เพราะเมตตาจิตที่ยิ่งใหญ่ จึงปรารถนาเกื้อกูล

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสร้างบารมีมามากมาย

เพื่อต้องการช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นจากทุกข์

การคบหาบัณฑิตนั้นชุ่มเย็น

การสมาคมกับคนพาลนั้นเดือดร้อน

การบูชาผู้ทรงธรรมนำไปสู่ความเจริญไพบูลย์

แค่มีจิตที่เคารพบูชาในพระรัตนตรัย

ก็เป็นจุดเริ่มต้นแห่งความดับทุกข์แล้ว

ยิ่งถ้าปฏิบัติตามโอวาทของท่าน

จะเสริมส่งไปสู่ความเจริญถาวรไม่มีเสื่อม

ทำจริงได้ของจริง ทำเล่นได้ของเล่น

เริ่มประพฤติธรรมในวันนี้ อย่ามัวผลัดวันอยู่เลย

ที่โล่งว่างไม่ถูกทำลายโดยพายุ

จิตที่ว่างไม่ถูกทำร้ายโดยอารมณ์

การว่างที่แท้ ต้องว่างอย่างมีสติ

ว่างที่พร้อมจะปลดปล่อย

มิใช่ว่างที่รอการสะสม

จิตที่แจ้งในไตรลักษณ์ มีอาการหน่ายคลาย

จิตที่ถูกครอบด้วยโมหะ มีอาการติดยึด

ถ้ารักตัวเอง ก็จะรักผู้อื่นด้วย

ถ้าไม่มีตัวเองก็จะไม่มีผู้อื่น

เมื่อญาณปัญญาเต็มรอบ

จะปล่อยให้สังขารธรรมทั้งปวง เป็นไปตามกระแสแห่งเหตุปัจจัย

โดยไม่ปล่อยใจออกไปผูกพันยึดมั่น

ความหวาดกลัวไม่สามารถขจัดให้หายด้วยการหนีความจริง

ยิ่งหนีความจริง ก็ยิ่งหวาดสะดุ้ง

ถูกหนามตำ ต้องหาที่ถูกตำแล้วบ่งออก

ไม่สามารถหายเจ็บด้วยการแกล้งทำเป็นลืม

แก้ปัญหาต้องสาวไปให้ถึงสาเหตุ

คันหัวอย่าไปเกาที่ขา

อริยสัจ ๔ ที่พระพุทธเจ้าทรงสอน

คือการวิเคราะห์ปัญหาเพื่อแก้ปัญหาที่เหตุ

อย่ามัวแต่กินยาแก้ปวดด้วยการระเริงอบายมุข

จงรู้สมุฎฐานของโรค แล้วจะรู้วิธีเยียวยา

ธรรมทั้งปวงเกิดแต่เหตุ

พระตถาคตเจ้าทรงแสดงเหตุแห่งธรรมนั้นและการดับแห่งธรรมนั้น

พระมหาสมณเจ้ามีปกติตรัสอย่างนี้